วิธีทําสบู่สับปะรด How to make pineapple soap
🍍เริ่มต้นจากการนำเอาน้ำมันมะพร้าวมารวมกับน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว มาผสมรวมกันทั้งหมดในภาชนะ คนให้ละลายรวมเข้าด้วยกันทั้งหมด จึงเอาไปต้มจนกระทั่งอุณหภูมิความร้อน 100 องศาฟาเรนไฮต์ ยกเอาลงมาพักไว้ก่อน
🍍ต่อมาก็เอาโซเดียมไฮดรอกไซต์อย่างระมัดระวังอย่างมาก เพราะเป็นด่างที่เข้มข้นร้อนแรงมาก เอาโซเดียมไฮดรอกไซต์ค่อย ๆ ใส่ลงไปในภาชนะสเตนเลสสตีลที่มีน้ำสมุนไพรขมิ้นชันเข้มข้นทีละเล็กที่ละน้อย คนให้ละลายเข้าด้วยกันทั้งหมด
🍍ลำดับต่อมาเอาโซเดียมไฮดรอกไซต์ที่ผสมกับน้ำสมุนไพร(ที่เราเตรียมมา)เข้มข้นมาค่อย ๆ เทลงไปในน้ำมันที่ผสมรวมกันอยู่ คนให้เข้าด้วยกัน คนให้เข้ากันให้ดีที่สุด เมื่อรวมตัวกันอย่างดีแล้วจะสังเกตุเห็นว่ามีลักษณะที่เหนียวข้นมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือเนื้อสบู่สมุนไพรนั่งเอง
🍍เอามาเทในแม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ถ้าทำใช้เองไม่ต้องมีแม่พิมพ์ก็เอามาใส่ลงไปในถาด แล้วเอามาตัดเป็นก้อนเป็นแผ่นทีหลัง
🍍ปล่อยเอาไว้เฉย ๆ ในห้องที่มีอุณหภูมิตามธรรมดาประมาณ 1 วัน 1 คืน หรือประมาณ 24 ชั่วโมง จึงเอาออกมาจากแม่พิมพ์ได้ เอาวางเรียงไว้เฉย ๆ หาอะไรคลุมไว้ด้วยเพื่อไม่ให้กลิ่นหอมของของขมิ้นชันระเหิดออกไปมาก และจะต้องปล่อยทิ้งเอาไว้ประมาณ 45วัน เพื่อให้เนื้อสบู่แข็งตัวคงที่นั่งเอง
🍍นำสบู่ที่ได้มาห่อด้วยกระดาษแก้วหรือพลาสติก หรือใส่กล่องพร้อมใช้
ข้อควรระวังและอันตราย
ที่อาจเกิดขึ้นจากสูตรและวิธีการทำผลิตภัณฑ์สบู่ "สบู่สมุนไพร "
การทำสบู่สมุนไพร ควรระมัดระวังในเรื่องของการเอาโซเดียมไฮดรอกไซต์มาผสมกับน้ำ เพราะจะเกิดความร้อนแรงพลุ่งพล่านจนน้ำเดือดขึ้นมา เนื่องจากโซเดียมไฮดรอกไซต์มีฤทธิ์เป็นด่างอย่างแรงมากนั่งเอง ค่อย ๆ ผสมที่ละเล็กที่ละน้อย อย่าทำด้วยความประมาณหรือไม่ระมัดระวังตัวเอง หรือเด็กที่อยู่ใกล้ ๆ สารเคมีตัวนี้ และควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ๆ
ควรสวมถุงมือยางป้องกัน และสวมรองเท้ายางหุ้มมาถึงแข้งป้องกันเอาไว้ ต้องปิดปากและจมูกด้วยหน้ากากป้องกันกลิ่นและไอระเหยที่ออกมาจากสารเคมีอันเป็นด่างอย่างแรงนี้ด้วย ควรสวมแว่นตาเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันการกระเด็นของสารเคมีที่อาจจะเกิดขึ้น
ต้องเอาขวดน้ำส้มสายชู ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดวางไว้ใกล้ ๆ เพื่อใช้การได้ทันทีทันใด ถ้าโซเดียมไฮดรอกไซต์กระเด็นมาสัมผัสผิวกายหรือหกรดราดไปที่เท้า ขา แขน ฯลฯ หากเกิดอันตรายเช่นนี้ขึ้นมา ต้องรีบเอาน้ำส้มสายชูกลั่นนี้ราดลงไปในบริเวณที่ถูกสารเคมีอันมีฤทธิ์เป็นด่างอย่างแรงทันทีเพื่อขจัดอาการร้อนแรงนั้นลง
หลังจากการใช้น้ำส้มสายชูแล้ว หากปวดแสบปวดร้อนมาก ควรรีบไปหาแพทย์ในทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น