วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2562

สับปะรด

🍍สบู่สับปะรด pineapple soap🍍


       🍍สับปะรด คือ จัดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง โดยประโยชน์ของสับปะรดนั้นมีอยู่หลาก    หลาย เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆจำนวนมาก ซึ่งได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามิ  นบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพเราเป็นอย่างมาก และสรรพคุณสับปะรดทางสมุนไพรนั้น ก็ชวยรักษาอาการต่างๆได้อย่างหลากหลายเช่นกัน เช่น โรคบิด โรคนิ่ว ช่วยบรรเทาอาการแผล เป็นหนอง ขับปัสสาวะ เป็นต้น สบู่สับปะรด





วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2562

ประโยชน์ของสับปะรด และ สรรพคุณของสับปะรด


ประโยชน์ของสับปะรด

ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง 
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ 
ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชรา 
เป็นผลไม้ที่เมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกสบายท้องไม่รู้สึกอึดอัด ดื่มน้ำสับปะรดปั่นกันดีกว่า 
ใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้ หรือนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงสับปะรด เป็นต้น 
นำมาใช้แปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง ทำเป็นสับปะรดกวนก็ได้ 
การแปรรูปสับปะรดอื่นๆ เช่น การทําไวน์สับปะรด แยมสับปะรด เป็นต้น 
ช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง 
ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัดได้ 
ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น 
ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก 
สับปะรด สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการร้อนกระสับกระส่าย หิวน้ำ 
ช่วยแก้อาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก 
ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีน 
ช่วยลดเสมหะในลำคอได้ 
ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก 
ช่วยรักษาโรคนิ่ว 
ช่วยรักษาโรคไตอักเสบ 
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง 
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ







สรรพคุณของสับปะรด

ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง 
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ 
ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชรา 
เป็นผลไม้ที่เมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกสบายท้องไม่รู้สึกอึดอัด ดื่มน้ำสับปะรดปั่นกันดีกว่า 
ใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้ หรือนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงสับปะรด เป็นต้น 
นำมาใช้แปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง ทำเป็นสับปะรดกวนก็ได้ 
การแปรรูปสับปะรดอื่นๆ เช่น การทําไวน์สับปะรด แยมสับปะรด เป็นต้น 
ช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง 
ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัดได้ 
ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น 
ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก 
สับปะรด สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการร้อนกระสับกระส่าย หิวน้ำ 
ช่วยแก้อาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก 
ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีน 
ช่วยลดเสมหะในลำคอได้ 
ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก 
ช่วยรักษาโรคนิ่ว 
ช่วยรักษาโรคไตอักเสบ 
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง 
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2562

วิธีทําสบู่สับปะรด

วิธีทําสบู่สับปะรด How to make pineapple soap




🍍เริ่มต้นจากการนำเอาน้ำมันมะพร้าวมารวมกับน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว มาผสมรวมกันทั้งหมดในภาชนะ คนให้ละลายรวมเข้าด้วยกันทั้งหมด จึงเอาไปต้มจนกระทั่งอุณหภูมิความร้อน 100 องศาฟาเรนไฮต์ ยกเอาลงมาพักไว้ก่อน


🍍ต่อมาก็เอาโซเดียมไฮดรอกไซต์อย่างระมัดระวังอย่างมาก เพราะเป็นด่างที่เข้มข้นร้อนแรงมาก เอาโซเดียมไฮดรอกไซต์ค่อย ๆ ใส่ลงไปในภาชนะสเตนเลสสตีลที่มีน้ำสมุนไพรขมิ้นชันเข้มข้นทีละเล็กที่ละน้อย คนให้ละลายเข้าด้วยกันทั้งหมด


🍍ลำดับต่อมาเอาโซเดียมไฮดรอกไซต์ที่ผสมกับน้ำสมุนไพร(ที่เราเตรียมมา)เข้มข้นมาค่อย ๆ เทลงไปในน้ำมันที่ผสมรวมกันอยู่ คนให้เข้าด้วยกัน คนให้เข้ากันให้ดีที่สุด เมื่อรวมตัวกันอย่างดีแล้วจะสังเกตุเห็นว่ามีลักษณะที่เหนียวข้นมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือเนื้อสบู่สมุนไพรนั่งเอง


🍍เอามาเทในแม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ถ้าทำใช้เองไม่ต้องมีแม่พิมพ์ก็เอามาใส่ลงไปในถาด แล้วเอามาตัดเป็นก้อนเป็นแผ่นทีหลัง


🍍ปล่อยเอาไว้เฉย ๆ ในห้องที่มีอุณหภูมิตามธรรมดาประมาณ 1 วัน 1 คืน หรือประมาณ 24 ชั่วโมง จึงเอาออกมาจากแม่พิมพ์ได้ เอาวางเรียงไว้เฉย ๆ หาอะไรคลุมไว้ด้วยเพื่อไม่ให้กลิ่นหอมของของขมิ้นชันระเหิดออกไปมาก และจะต้องปล่อยทิ้งเอาไว้ประมาณ 45วัน เพื่อให้เนื้อสบู่แข็งตัวคงที่นั่งเอง




🍍นำสบู่ที่ได้มาห่อด้วยกระดาษแก้วหรือพลาสติก หรือใส่กล่องพร้อมใช้




ข้อควรระวังและอันตราย

ที่อาจเกิดขึ้นจากสูตรและวิธีการทำผลิตภัณฑ์สบู่ "สบู่สมุนไพร " 



การทำสบู่สมุนไพร ควรระมัดระวังในเรื่องของการเอาโซเดียมไฮดรอกไซต์มาผสมกับน้ำ เพราะจะเกิดความร้อนแรงพลุ่งพล่านจนน้ำเดือดขึ้นมา เนื่องจากโซเดียมไฮดรอกไซต์มีฤทธิ์เป็นด่างอย่างแรงมากนั่งเอง ค่อย ๆ ผสมที่ละเล็กที่ละน้อย อย่าทำด้วยความประมาณหรือไม่ระมัดระวังตัวเอง หรือเด็กที่อยู่ใกล้ ๆ สารเคมีตัวนี้ และควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ๆ



ควรสวมถุงมือยางป้องกัน และสวมรองเท้ายางหุ้มมาถึงแข้งป้องกันเอาไว้ ต้องปิดปากและจมูกด้วยหน้ากากป้องกันกลิ่นและไอระเหยที่ออกมาจากสารเคมีอันเป็นด่างอย่างแรงนี้ด้วย ควรสวมแว่นตาเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันการกระเด็นของสารเคมีที่อาจจะเกิดขึ้น



ต้องเอาขวดน้ำส้มสายชู ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดวางไว้ใกล้ ๆ เพื่อใช้การได้ทันทีทันใด ถ้าโซเดียมไฮดรอกไซต์กระเด็นมาสัมผัสผิวกายหรือหกรดราดไปที่เท้า ขา แขน ฯลฯ หากเกิดอันตรายเช่นนี้ขึ้นมา ต้องรีบเอาน้ำส้มสายชูกลั่นนี้ราดลงไปในบริเวณที่ถูกสารเคมีอันมีฤทธิ์เป็นด่างอย่างแรงทันทีเพื่อขจัดอาการร้อนแรงนั้นลง



หลังจากการใช้น้ำส้มสายชูแล้ว หากปวดแสบปวดร้อนมาก ควรรีบไปหาแพทย์ในทันที





วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562

สมาชิก



รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม




นาย ณฐพฤทธ์ เกิดวาจา ม.5/1 เลขที่ 19




นาย ภานุพงศ์ จิธานนท์ ม.5/1 เลขที่ 20



นางสาว เบญญ์ลลิตา คำพิลา ม.5/1 เลขที่ 21



นางสาว เบญญาภา ศรประสิทธิ์ ม.5/1 เลขที่ 22



นางสาว ชนันธร โสภณ ม.5/1 เลขที่ 23



นาย ปฐมทัศน์ จินาพันธ์ ม.5/1 เลขที่ 24



นางสาว ชญากาณฑ์ โพธิ์ไพฑูรย์ ม.5/1 เลขที่ 27



นางสาว สารยา เลิศนอก ม.5/1 เลขที่ 28



นางสาว แพรวา ขันทอง ม.5/1 เลขที่ 32



นาย ปฏิภาณ ชาญชีวพิทักษ์กุล ม.5/1 เลขที่ 37


🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍🍍